Oh-oh-oh-oh Oh-oh-oh-oh Oh-oh yeah~
yeah-eh-eh-eh eh-eh-eh-eh-eh (you got me twisted)
Oh-oh-oh-oh Oh-oh-oh-oh Oh-oh Ohoh~
yeah-eh-eh-eh eh-eh-eh-eh-eh Umm~
새로운 시작은 언제나 두렵죠
แซโรอุน ชีจากึน ออนเจนาทูรยอบจโย
การเริ่มต้นใหม่มักเป็นอะไรที่น่ากลัวเสมอ
. . . . . . . . . .
. . . . . . .
. . . .
. . .
2ปีผ่านที่ผ่านมาเสมือนช่วงเวลาที่แสนสั้นสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับฉันแล้วมันช่างยาวนานเสียเหลือเกิน กาลเวลาไม่เคยทำให้ฉันลืมเขาได้เลยสิกนิด แต่กลับทำให้ฉันยิ่งคิดถึงเขามากขึ้นไปในทุกๆวัน ความทรงจำต่างๆที่มีร่วมกันคอยตอกย้ำให้ฉันยังคอยรอเขาอยู่ต่อไป...
'ตัลมันหิมะเริ่มตกแล้วนะ กลับกันเถอะ' เพื่อนสนิทของเธอ 'ชเว จินริ' เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างบางที่อยู่ข้างกำลังนั่งเหม่อที่ม้านั่ง เป็นปกติของ คริสตัล จอง คนนี้จะต้องมานั่งรอเขาคนนั้นในที่เดิมเป็นประจำทั้งๆที่รู้ว่ายังไงเขาก็คงไม่กลับมาหาเธอ
'เธอกลับไปก่อนเลยซอลลี่ ฉันขอนั่งตรงรออีกสักพัก'
คำตอบเดิมๆที่เอ่ยตอบออกมาไม่ว่าจะสภาพอากาศไหนของคริสตัล ทำเอาซอลลี่ถึงกับเหนื่อยใจกับนิสัยเพื่อนสาวคนนี้ แต่เธอก็เข้าใจว่าคริสตัลยังทำใจไม่ได้ เธอจึงทำได้เพียงตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนเบาๆ ก่อนจะเอ่ยลาแล้วเดินแยกไปอีกทาง
สุดท้ายก็เหลือเพียงร่างบางที่นั่งอยู่ตรงนั้น ภาพความทรงจำเก่าๆเริ่มไหลเข้ามาในหัวสมองพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆเอ่อล้นออกมาจากนัยตาคู่สวย...
'เลิกร้องไห้ได้แล้วนะครับคนสวย ' เสียงของชายหนุ่มแปลกหน้าเรียกความสนใจจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
'ค...คุณ...เป็น....ค...ใครคะ'
'ผมชื่อมินฮยอนครับ ให้ผมเป็นคนปกป้องคุณนะครับ :) '
하지만 이번만큼은 사랑이라 꼭 믿어요
ฮาจีมัน อีบอนมันคือมึน ซารังอีรา กก มิดอโย
แต่ว่าในตอนนี้... ฉันกลับเชื่อจริงๆ ว่าสิ่งนี้มันคือความรัก
. . . . . . . . . .
. . . . . . .
. . . .
. . .
หลังจากวันนั้นชีวิตของคริสตัลจองก็เปลี่ยนไปหลังจากได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น เพียงไม่นานเขาก็เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเธอ
ใบหน้าหล่อเหลาไร้อารมณ์ของชายหนุ่มคนนั้นกำลังยืนพิงรั้วหน้าบ้านของฉันอยู่อย่างท้าทายความหนาว
ฉันจึงตัดสินใจเดินผ่านเขาไปอย่างไม่สนใจ ก่อนที่สองขาก้าวไปได้สักพักก็ต้องหยุด กึก!
'คริสตัลนูนา!'
ฉันหันกลับไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นมินฮยอนวิ่งเข้ามาหา..
'ผมรอนูนาอยู่นะ (' ')'
'หืม'
'ไปโรงเรียนกันดีกว่าครับ '
'อืม ไปสิ'
ไม่นานรถบัสก็มาจอด แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะรถนั้นมีคนนั่งจับจองที่นั่งกันเต็มไปหมดจึงเหลือเพียงแค่ที่ให้ยืนอีกนิดหน่อย ทำใไ้ทั้งคู่ต้องยืนเบียดกันเล็กน้อย... และหัวใจฉันแทบจะหลุดออกมาข้างนอก เมื่อยามที่รถเบรก ใบหน้าของมินฮยอนก็เคลื่นเข้ามาใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนที่สัมผัสได้ตรงข้างแก้ม
หลังจากนั้นไม่นานนักรถบัสก็มาจอดลงป้ายหน้าโรงเรียนพอดี มินฮยอนจึงถือวิสาสะคว้ามือฉันไปจับไว้อย่างหน้าตาเฉย ก่อนจะพากันเดินมาถึงหน้าห้องเรียน
'นี่ถึงห้องแล้ว ปล่อยนะ' เสียงหวานแหลมดังขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมปล่อยมือของตน
'เดี๋ยวเย็นนี้ผมมาหาที่ห้องนะครับ รอผมด้วย' ว่าจบก็ยิ้มหวานให้ร่างบางตรงหน้าก่อนจะเดินลงไป...
아팠던 이별 보다 더 행복해지려고
อาพัซดอน อีบยอล โบดา ดอ แฮงบกแฮจีรยอโก
การพยามที่จะมีความสุขมากกว่าคิดถึงความเจ็บปวดจากการเลิกรา
.......
.....
....
...
..
ตึง!
คนที่กำลังใช้เวลากับการอ่านหนังสือถึงกับตกใจสะดุ้งเฮือก เมื่อโทรศัพท์เครื่องสวยสั่นเตือนขึ้นแสดงถึงการมีข้อความใหม่เข้า ใบหน้าเรียวฉายแววสงสัย ก่อนที่มือเรียวยาวจะเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดู ตาสวยไล่อ่านตัวอักษรทีล่ะตัว
นูนามาเจอผมที่หน้าบ้านนูนาตอนนี้ได้ไหมครับ
มินฮยอน
สองขายาวจึงตัดสิ้นใจก้าวเดินออกมาหน้าบ้านของตนด้วยความสงสัยก่อนจะต้องตกตะลึงกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
เมื่อเด็กหนุ่มหน้าหล่อคนเดิมเสียงเดิมกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของฉันพร้อมกับดอกไม้ช่อสวย
'เอ่อ...มีอะไรรึป่าวมินฮยอนอา'
'ให้ผมได้ดูแลนูนาได้ไหมครับ เป็นแฟนกันนะครับ' เขาก้มหน้าคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้มมาสบตาฉันอย่างแน่วแน่ก่อนจะเอื้อเอ่ยออกมา...
'นูนายังไม่พร้อมที่จะเสี่ยงน่ะ...เราพึ่งรู้จักกันเพียงสองอาทิตย์เองนะ'
'สำหรับผมสองอาทิตย์มันก็มากพอที่ผมจะมั่นใจได้แล้วครับว่าใครคือคนที่ใช่สำหรับผม'
'นูนาขอเวลาคิดหน่อยได้ไหม'
'แค่นูนาเปิดใจให้ผม ผมก็ดีใจแล้วครับ'
그대와 우리 영원을 약속하고 맹세하죠
คือแดวา อูรี ยองวอนึล ยักซกฮาโก แมงเซฮาจโย
เหมือนกับคำสาบานที่เป็นสัญญานิรันดรของเรา
.....
...
..
.
สองอาทิตย์ผ่านไป...
หลังจากที่ฉันใช้เวลาคิดทบทวนกับตัวเองอยู่นาน อีกทั้งอะไรหลายๆอย่างที่ฉันควรเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิตบ้าง เพราะชีวิตของคนเรานั้นสั้นนัก ถ้าไม่ลองอะไรใหม่ๆก็อาจจะพลาดสิ่งที่ดีที่สุดไปก็ได้
ฉันจึงตัดสินใจเดินไปยังหน้าห้องเรียนของมัธยมปลายปีสอง...มันคือห้องเรียนของฮวังมินฮยอนตามคำบอกเล่าจากเร็น คนที่มาจีบเพื่อนสาวฉันอย่างซอลลี่
แต่ตอนนี้คนกลับมีผู้คนอยู่หน้าห้องนี้เต็มไปหมด ฉันเลยตัดสินใจยืนหลบมุมรอคอยทยอยหายไปได้สักพัก จึงเดินเข้าไปในห้องที่เกือบจะว่างเปล่านั้นก่อนที่จะเห็นเป้าหมายคนสำคัญของฉันในวันนี้ ซึ่งเมื่อเขาเห้นฉันแววตาตกใจก็เกิดขึ้นภายในตาของเขา
'นูนามาทำอะไรที่นี่ครับ'
'ขอเวลาคุยด้วยหน่อยได้ไหม'
หลังจากที่ฉันพูดจบ มินฮยอนก็ส่งสายตาดุดันไปให้แก่เพื่อนที่เหลือของเขาจนทุกคนยอมเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงเราสองคน
'นูนามีอะไรกับผมหรอครับ'
'เอ่อ...คือ..ยังอยากฟังคำตอบของนูนาอยู่หรือเปล่า'
'อยากสิครับ'
'นูนา...ตกลง '
'O_O!!! นูนาพูดจริงหรือเปล่าครับ'
'...จริงสิ'
'สัญญาด้วยเกียรติฮวัง มินฮยอนเลยครับ ว่าจะไม่ทำให้นูนาร้องไห้แน่นอน'
'ฮ่าๆ ขอบคุณนะ ^^'
하지만 잦은 관심이 작은 부담이 되겠죠
ฮาจีมัน จาจึน ควานชีมี จากึน บูดามี ดเวเกซจโย
แต่ว่าการที่ฉันเอาใจใส่คุณบ่อยๆ อาจทำให้คุณเริ่มรู้สึกกดดันขึ้นทีละนิด
.......
....
...
..
'ได้พักผ่อนบ้างไหมเนี่ย ทำไมถึงดูผอมลงเยอะเลยล่ะ?'
'ช่วงนี้การบ้านเยอะมากๆเลยครับนูนา TT'
'แล้ววันนี้ว่างรึเปล่าล่ะ'
'สำหรับนูนาผมว่างเสมอครับ'
'งั้นเราไปกินเค้กกันไหม นูนาเห็นร้านเปิดใหม่แถวนี้ เราไปกันไหม'
'เอาสิครับ'
มินฮยอนเลือกที่จะนั่งอยู่ตรงกลางร้าน เขาหันมาเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่งก่อนจะอ้อมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม
'เอาซอล์ฟครีมชานมดีไหมครับนูนา' ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งอ่านไล่เมนูไปเรื่อยๆ มินฮยอนก็พูดขึ้นมา พอฉันเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเขานั่งเท้าคางมองหน้าฉันอยู่ ...ฉันก็รู้สึกใจเต้นขึ้นมาเฉยๆ บนใบหน้าหล่อของเขานั้นมีรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
'อืม ก็ได้'
'งั้นเอาช็อคโกแลตเย็นสองแก้ว แล้วก็..ซอล์ฟครีมชานมด้วยครับ'
'ค่ะ ได้ค่ะ' พนักงานสาวจดอย่างเชื่องช้าโดยที่ตาแทบไม่มองกระดาษเลย มองแต่หน้ามินฮยอนอยู่นั่น แต่มินฮยอนกลับไม่ได้สนใจ เขาทำเพียงแค่มองหน้าฉันพลางอมยิ้มไปด้วย
ฉันนั่งใจเต้นตึกตักได้สักพักก่อนที่ซอล์ฟครีมมาเสิร์ฟ ฉันถึงได้สติก่อนจะลงมือหันมาจัดการของหวานที่อยู่ตรงหน้า
'มินฮยอนอา '
'ครับนูนา'
'ซอล์ฟครีมนี่อร่อยจริงๆนะกินด้วยกันไหม' ฉันถามพร้อมกับขึ้นมาก่อนจะยื่นไปตรงหน้าเขา
'นูนาครับ ครีมเลอะปากน่ะ'
'หืม ตรงไหนหรอ' ฉันงงไปสามวิก่อนที่จะหน้าร้อนผ่าว เมื่อมินฮยอนเลื่อนนิ้วของเขามาแจะเบาๆที่ริมฝีปากของฉัน จากนั้นจึงเลียครีมที่ปลายนิ้วตัวเองออก
'อร่อยจริงๆด้วยครับ'
끊기 싫은 긴 통화를 점점 귀찮아하겠죠
กึนกี ชีลึน คิน ทงฮวารึล จอมจอม กวีชานาฮาเกซจโย
คุณอาจรำคาญมากขึ้น...เวลาที่ฉันไม่อยากจะวางสายของคุณ
.........
....
...
..
[นูนาผมจะวางสายแล้วนะครับ]
'เดี๋ยวก่อนสิมินฮยอนอา'
[ ตู๊ดๆๆ ]
แล้วสายก็ตัดไปพร้อมกับอาการช็อคสนิทของฉัน
시간이 갈수록 난 이렇게 작아지는걸
ชีกานี คัลซูรก นัน อีรอเค จากาจีนึนกอล
มันทำให้เมื่อเวลาผ่านไป ฉันเลยหมดความสำคัญลงไปเรื่อยๆ
.......
....
...
..
เดือนที่สี่
'นูนารักนายจัง พรุ่งนี้เราไปดูหนังกันดีไหม?'
'ผมนัดเพื่อนเอาไว้ครับ'
' อย่างงั้นหรอก อื้อ ไม่เป็นไร ^^'
'นูนากลับบ้านเองได้ใช่ไหมครับ วันนี้ผมรีบ'
'ได้สิๆ นายรีบไปเถอะ'
'ครับ'
หลังจากบอกลากันจบ เขาก็หันไปไม่แม้แต่จะหันกลับมามองฉันสักนิด ฉันจึงตัดสินใจเดินเล่นไปเรื่อยๆจนมาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่ที่ฉันเจอกับเขาครั้งแรก ... พลันภาพแห่งความทรงจำต่างๆก็ยังคงวนเวียนไหลเข้ามานหัวอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนที่น้ำตาของฉันจะเริ่มไหลลงมาเรื่อยๆ...
그댄 남자라서 남자라서 죽어도 몰라요
คือแดน นัมจาราซอ นัมจาราซอ จูกอโด มลราโย
ก็เพราะคุณเป็นผู้ชาย..คุณเป็นผู้ชาย..คุณถึงไม่รู้อะไรเลยถึงแม้คุณจะตาย
........
....
...
...
เดือนที่หก
'นี่มินฮยอนอา พึ่งไปนะ จำไม่ได้หรอวันนี้วันอะไร '
'วันจันทร์ไงครับ ผมต้องรีบไปแล้วนูนาปล่อยผมเถอะครับ'
'ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ไปจะไม่ไปได้หรือเปล่า..'
'ทำไมนูนางี่เง่าแบบนี้ล่ะครับ!' มินฮยอนเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองหน้าฉันสักนิด
'วันนี้วันครบรอบหกเดือนของเรานะ' คำพูดที่เปล่งออกมาจากปากบางหลุดออกมาหลังจากที่อีกคนได้เดินหายไปแล้ว
내가 부족해서 너무 못나서 그대만 바라보고 있죠
แนกา บู จกแฮซอ นอมู มซนาซอ คือแดมัน พาราโบโกอิซจโย
ก็เพราะฉันมันแย่...ก็เพราะฉันมันโ ง่...ฉันถึงมองแค่คุณคนเดียว
......
...
..
เดือนที่เจ็ด
'คริสตัลอา ดูสิมีรุ่นน้องเขียนจดหมายมาให้เธอด้วยล่ะ'
'...'
'คริสตัลอาเธอยังมีฉันอยู่ข้างเสมอนะ รู้ไหม' ซอลลี่เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอเริ่มน้ำตาคลอจึงรีบดึงเข้ามากอดเอาไว้แน่น ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งกอดกันร้องไห้ท่านกลางบรรยากาศอันโหวงเหวงในโรงเรียนที่แทบไมเหลือใครแล้ว
그저 자유롭고 싶겠죠 변할 수는 없겠죠 남자라서
คือจอ จายูรบโก ชิพเกซจโย พยอนฮัลซูนัน ออพเกซจโย นัมจาราซอ
คุณอาจแค่ต้องการเป็นอิสระ ทำให้คุณอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้...ทั้งหมดนั่นก็เพราะคุณเป็นผู้ชาย
......
...
..
ตึง!
ตึง!ตึง!ตึง!
เสียงไอโฟนของฉันดังขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ แสงของจอสว่างวาบขึ้นพร้อมกับชื่อของเขา...มินฮยอน ฉันจึงตัดสินใจเดินไปหาเขาทันที
'มีอะไรเหรอมินฮยอนอา'
'นูนา...ผมว่าเราห่างกันสักพักไหมครับ'
'เอาอย่างนั้นหรอ...ก็เอาสิ'
남자라서남자라서남자라서
นัมจาราซอ.. นัมจาราซอ .. นัมจาราซอ
เพราะยังไงคุณก็เป็นผู้ชาย
......
...
..
เดือนที่เก้า
ภาพเหตุการณ์ต่างๆในอดีตย้อนกลับเข้ามาในคงามคิดของฉันอีกครั้ง ราวกับภาพตอกย้ำเหตุการณ์ในอดีตของฉันกับแฟนเก่า...คิมจงอิน... แต่มันต่างกันตรงที่ฉันจะเป็นคนบอกเลิกเอง ไม่ใช่โดนบอกเลิก
เมื่อคิดได้ดังนั้น มือเรียวยาวจึงรีบต่อสายไปยังปลายทาง...ฮวัง มินฮยอน..
[ยอโบเซโย]
'ออกมาเจอกัหน่อยได้ไหม ...ครั้งสุดท้ายก็ยังดี'
[ที่เดิมนะครับ]
'อืม'
[ตู๊ดๆ]
ฉันมาถึงที่นัดก่อนเวลาเล็กน้อยจึงเลือกที่จะนั่งใกล้ทางเข้าร้าน เพื่อให้เขาเห็นฉันได้ชัดๆ หลังจากนั้นเพียงนิดเดียว ร่างสูงของเขาก็เดินเข้ามาในร้านด้วยความรีบร้อน ใบหน้าของเขาไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนเขาก็ยังดูดีเสมอในสายตาฉัน...
เมื่อเขานั่งลง มินฮยอนไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็รีบสวนขึ้นมาโดยไม่สนใจอะไร
'นูนาเรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ'
'นูนาว่า...เราเลิกกันเถอะนะ'
'เลิกเหรอครับ...ผมไม่ยอมหรอก!'
'....'
'นูนา ผมขอโทษ ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น'
'...'
'ตลอดเวลาที่นูนาไม่ได้อยู่เคียงข้างผม ผมรู้สึกเหมือนผมจะสิ้นใจตาย ผมขอโทษ ฮึก ผมขาดนูนาไม่ได้ '
'นูนา..'
'ยกโทษให้ผมนะครับนูนา ...ผมขอโทษ'
หลังจากที่มินฮยอนพูดจบ เขาก็ก้มหน้าลงพร้อมกับมีเสียงสะอึกสะอื้นเล็ดลอดออกมา ทำให้ฐิทิที่เคยมีอยู่ของฉันพังทลายลงทันที...
'มินฮยอนอา...นูนาขอเวลาคิดหน่อยได้ไหม นูนา..'
'ถ้าเป็นนูนา ต่อให้นานแค่ไหนผมก็รอได้ครับ'
เดือนที่สิบ
ฉันเดินไปยังหน้าห้องเรียนของมัธยมปลายปีสองอีกครั้ง ที่ห้องเรียนของมินฮยอน
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียน แต่ฉันยังเห็นมินฮยอนนั่งอยู่ในห้องเรียนของเขา คนเดียว
'มินฮยอนอา'
'นูนา....'
'ยังรอคำตอบของนูนาอยู่ไหม'
'แน่นอนครับ'
'เรากลับมาคบกันนะ'
สิ้นเสียงของฉันมินฮยอนก็เขามาสวมกอดฉันทันที
'ขอบคุณนะครับ'
อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้
เขาก็เป็นผู้ชายของฉัน
ที่มองแค่ฉันคนเดียว
ความคิดเห็น